### คำสั่ง Git พื้นฐาน: `git status` - ตรวจสอบสถานะของ Repository
Git คือระบบควบคุมเวอร์ชันที่ได้รับความนิยมอย่างมหาศาลในโลกโปรแกรมมิ่ง ไม่ว่าจะเป็นโครงการขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ การใช้ Git ช่วยให้โปรแกรมเมอร์สามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงของโค้ดได้อย่างมีประสิทธิภาพ หนึ่งในคำสั่งที่บ่อยที่สุดในการใช้งาน Git คือ `git status` ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการตรวจสอบสถานะของ repository ของเรา
#### `git status` คืออะไร?
คำสั่ง `git status` ใช้เพื่อตรวจสอบสถานะของไฟล์และโฟลเดอร์ใน repository ทำให้โปรแกรมเมอร์ทราบว่าไฟล์ใดบ้างที่มีการเปลี่ยนแปลง ไฟล์ใดบ้างที่ถูกสเตจไว้ (staged) พร้อม commit และไฟล์ใดบ้างที่ยังไม่ได้ติดตาม (untracked)
เมื่อใช้คำสั่ง `git status` คุณจะเห็นข้อมูลที่แบ่งออกเป็นสองส่วนหลักๆ คือ
1. Changes to be committed: แสดงไฟล์ที่ถูกสเตจไว้พร้อมสำหรับ commit 2. Changes not staged for commit: แสดงไฟล์ที่ถูกแก้ไขแต่ยังไม่ได้สเตจ 3. Untracked files: แสดงไฟล์ที่ไม่พบใน repository#### การใช้งานคำสั่ง `git status`
การใช้งานคำสั่ง `git status` นั้นง่ายมาก เพียงแค่เปิด terminal หรือ command prompt ไปยังไดเรกทอรีที่มี git repository อยู่แล้วพิมพ์คำสั่งตามนี้:
git status
แค่นี้คุณก็จะได้ข้อมูลที่อัปเดตเกี่ยวกับสถานะของไฟล์ใน repository ของคุณแล้ว
#### ตัวอย่างการใช้งาน
สมมติว่าคุณกำลังทำงานในโปรเจกต์ชื่อ `my-project` และคุณเพิ่งเพิ่มไฟล์ใหม่ชื่อ `example.py` ลงใน directory นั้น หากคุณยังไม่ได้บอก Git ให้ติดตามไฟล์นี้ เมื่อคุณพิมพ์ `git status` คุณจะเห็นว่าไฟล์นี้จะปรากฏอยู่ในส่วนของ "Untracked files" ดังนี้:
$ git status
On branch main
Your branch is up to date with 'origin/main'.
Untracked files:
  (use "git add <file>..." to include in what will be committed)
	example.py
nothing added to commit but untracked files present (use "git add" to track)
หากคุณต้องการติดตามไฟล์ `example.py` คุณจะต้องใช้คำสั่ง `git add` ดังนี้:
git add example.py
จากนั้นหากคุณพิมพ์ `git status` อีกครั้ง คุณจะเห็นว่าไฟล์ `example.py` มีการย้ายไปอยู่ในส่วน "Changes to be committed" แล้ว:
$ git status
On branch main
Your branch is up to date with 'origin/main'.
Changes to be committed:
  (use "git restore --staged <file>..." to unstage)
	new file:   example.py
#### ประโยชน์ของ `git status`
1. การตรวจสอบที่รวดเร็ว: ด้วยคำสั่งเดียว คุณสามารถรับข้อมูลเกี่ยวกับสถานะของ repository ได้ทันที โดยไม่ต้องเปิดไฟล์ทีล่ะตัวหรือเช็คด้วยวิธีอื่น 2. ป้องกันการ commit ผิด: โดยปกติแล้ว เราสามารถตรวจสอบได้ว่ามีไฟล์ไหนบ้างที่ยังไม่ได้สเตจก่อนการ commit จึงสามารถป้องกันการ commit ไฟล์ที่ไม่ตั้งใจได้ 3. การติดตามไฟล์ใหม่: `git status` ทำให้เราทราบว่ามีไฟล์ใหม่ใดบ้างที่ยังไม่ได้บอกให้ Git ติดตาม ช่วยให้เราติดตามการเปลี่ยนแปลงได้อย่างครอบคลุม#### ข้อควรระวัง
ถึงแม้ `git status` จะให้ข้อมูลที่ครบถ้วนแต่ก็ไม่ได้ทำการเปลี่ยนแปลงใดๆ กับ repository ของคุณ เป็นเพียงข้อมูลรายงานเท่านั้น การปรับสถานะของไฟล์ต้องใช้คำสั่งเพิ่มเติม เช่น `git add` หรือ `git commit`
ในท้ายที่สุด คำสั่ง `git status` เป็นคำสั่งที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง มีบทบาทสำคัญในการจัดการ repository คุณสามารถใช้งานควบคู่กับคำสั่งอื่นๆ ใน Git เพื่อให้เกิดกระบวนการพัฒนาที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
การเข้าใจและใช้งานคำสั่งพื้นฐานของ Git อย่าง `git status` อย่างถูกต้องจะช่วยให้คุณควบคุมการทำงานของคุณได้อย่างมีระเบียบ และสร้างระบบการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
หากคุณสนใจศึกษาเรื่อง Git ให้ลึกซึ้งขึ้นสามารถศึกษาได้ที่สถาบันสอนการเขียนโปรแกรม Expert-Programming-Tutor (EPT) สถานที่ที่เราจะพาคุณเข้าสู่โลกของการพัฒนาซอฟต์แวร์อย่างมืออาชีพ!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC) 
    084-88-00-255 (AIS) 
    026-111-618 
    หรือทาง EMAIL:  NTPRINTF@GMAIL.COM
 
    
